Skip to main content

รายงานฉบับนี้มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อส่งเสริมและรับฟังความคิดเห็นจากแรงงานข้ามชาติในการประเมินผลสัมฤทธิ์ของพระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ. 2533 และพระราชบัญญัติเงินทดแทน พ.ศ. 2537 รวมถึงกฎหมายที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อนำข้อมูลที่ได้มาใช้ประกอบการจัดทำข้อเสนอแนะเชิงนโยบายสำหรับการปรับปรุง แก้ไข และพัฒนากฎหมายและระบบการบริหารจัดการที่เกี่ยวข้องในอนาคต สำหรับการเก็บรวบรวมข้อมูล ผู้วิจัยได้ใช้เครื่องมือสองชนิด ได้แก่ การแจกแบบสอบถามออนไลน์ซึ่งได้รับกลับคืนมาจำนวน 202 ชุด และการจัดสนทนากลุ่มในพื้นที่เป้าหมาย 4 แห่ง เพื่อรวบรวมข้อมูลเชิงลึกและมุมมองที่หลากหลายจากกลุ่มแรงงานข้ามชาติต่อประเด็นดังกล่าว

จากการสำรวจแรงงานข้ามชาติ 202 คน พบว่าส่วนใหญ่เป็นเพศหญิงสัญชาติเมียนมา พักอาศัยในกรุงเทพฯ และสมุทรสาคร โดยมีเพียง 31% ที่มีเอกสารทำงานถูกต้อง และมีเพียง 23% ที่เป็นผู้ประกันตนในระบบประกันสังคม ในด้านการรับรู้สิทธิประโยชน์ แรงงานส่วนใหญ่ (38%) ไม่รับรู้สิทธิประโยชน์ใดเลย และ 86% ไม่เคยใช้สิทธิใด แรงงานข้ามชาติประสบปัญหาสำคัญในการเข้าถึงและเข้าใจระบบประกันสังคม เนื่องจากขาดข้อมูลที่ถูกต้อง โดยเฉพาะอุปสรรคด้านภาษาที่ข้อมูลส่วนใหญ่เป็นภาษาไทยและล่ามมีไม่เพียงพอ การเข้าสู่ระบบประกันสังคมมักขึ้นอยู่กับการดำเนินการของนายจ้าง สะท้อนความไม่สมดุลของอำนาจ และมีปัญหาความไม่ต่อเนื่องของข้อมูลเมื่อเปลี่ยนงาน ส่งผลต่อสิทธิที่ต้องอาศัยระยะเวลาการส่งเงินสมทบ นอกจากนี้ กระบวนการยื่นเอกสารและการเบิกสิทธิมีความล่าช้าและซับซ้อน โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายในการแปลเอกสารที่สูงกว่าสิทธิที่ได้รับ ทำให้แรงงานจำนวนมากละทิ้งสิทธิของตน

ข้อเสนอแนะประกอบด้วยการพัฒนาแอปพลิเคชันและเอกสารหลายภาษา การอบรมให้ความรู้และเพิ่มล่าม การบูรณาการข้อมูลและกำหนดเลขประกันสังคมถาวร การปรับปรุงกระบวนการยื่นเอกสารให้เป็นมาตรฐานและมีระบบออนไลน์ การยอมรับเอกสารจากประเทศต้นทางและความหลากหลายทางวัฒนธรรม การสร้างกลไกการมีส่วนร่วมของแรงงานข้ามชาติผ่านเวทีรับฟังความคิดเห็น รวมถึงการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่ให้เข้าใจวัฒนธรรมและมีทักษะการสื่อสารที่ดีขึ้น การดำเนินมาตรการเหล่านี้อย่างเป็นระบบจะช่วยให้แรงงานข้ามชาติได้รับความคุ้มครองที่เป็นธรรมและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

Attach files