Skip to main content

เรื่อง ขอให้เร่งติดตามช่วยเหลือลูกเรือจำนวน 31 คน จากกรณีกองทัพเรือเมียนมาร์ยึดเรือและจับกุมลูกเรือ เรือประมง ส.เจริญชัย 8

ในกรณีที่แรงงานประมงถูกนําไปอยู่ในต่างประเทศไม่ว่าด้วยเหตุใดอันมิใช่เป็นความผิดของแรงงานประมง เจ้าของเรือมีหน้าที่ส่งแรงงานประมงนั้นกลับมายังสถานที่ที่ได้ทำสัญญาจ้างโดยเร็วนอกจากนี้การกำหนดตำแหน่งเรือเป็นหน้าที่ของผู้ควบคุมเรือ ดังนั้นแรงงานประมงเหล่านี้จึงไม่ควรถูกลงโทษหรือถูกละเลยความคุ้มครองตามกฎหมาย แม้หน้าท

ข้อกังวลใจและข้อเสนอของเครือข่ายองค์กรด้านประชากรข้ามชาติ ต่อประเด็นแรงงานในร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558 พ.ศ. ….

เครือข่ายองค์กรด้านประชากรข้ามชาติมีเป้าหมายอยากเห็นการพัฒนากิจการประมงแลอาหารทะเลของไทย มีความก้าวหน้า ได้รับการยอมรับในเวทีระหว่างประเทศและเวทีการค้าระหว่างประเทศ ดังนั้น การคำนึงถึงองค์รวมทั้งในเรื่องการผลิต การบริหารจัดการ และการคุ้มครอง และยืนยันว่าประเด็นแรงงานเป็นประเด็นสำคัญในการบริหารจัดการประมงที่ยั่งยืน ถูกกฎหมาย และเป็นธรรม จึงเรียนถึงคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติฯเพื่อพิจารณ

ข้อห่วงใยและข้อเสนอต่อผลกระทบการบริหารจัดการแรงงานข้ามชาติจากพม่าในกรณีสถานการณ์ความรุนแรงในพื้นที่ชายแดนไทย-พม่า

จากสถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา ตรงข้ามพื้นที่อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2567 เป็นต้นมา ได้ทวีความรุนแรงขึ้นตามลำดับ โดยกลุ่มต่อต้านรัฐบาลทหารเมียนมาที่ประกอบด้วยกองกำลังผสมจากกองกำลังสหภาพแห่งชาติกะเหรี่ยง (KNU) กองกำลังพิทักษ์ประชาชน (PDF) และกองกำลังพิทักษ์ชายแดน (BGF) ได้เข้าโจมตีฐานที่มั่นของทหารเมียนมาในพื้นที่รอบเมืองเมียวดี รัฐกะเหรี่ยง และสามารถเข้ายึดฐานที่มั่นของทหารเมียนมาได้อย่างต่อเนื่องและมีแนวโน้มว่า อาจจะลุกลามจนทำให้เกิดการปิดด่านชายแดน ซึ่งจะมีผลกระทบต่อการเดินทางและความปลอดภัยของประชาชนในพื้นที่ชายแดน รวมทั้งผู้ที่ต้องเดินทางในพื้นที่ชายแดน ทั้งนี้ในปัจจุบั

เวทีสัมมนาระดมความคิดเห็นในเรื่อง “แนวทางการบริหารจัดการแรงงานข้ามชาติหลัง 13 กุมภาพันธ์ 2568 และการปฏิรูประบบการนำเข้าแรงงานตามระบบ MOU : ข้อเสนอจากภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง”

นโยบายการบริหารจัดการแรงงานข้ามชาติของไทย และสถานการณ์ในประเทศต้นทางมีผลกระทบต่อการจ้างแรงงานข้ามชาติอย่างชัดเจน ในขณะที่ปัจจุบันประเทศไทยมีระยะเวลาในการวางแผนการบริหารจัดการแรงงานข้ามชาติที่ส่วนใหญ่จะสิ้นสุดการอนุญาตทำงานในวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2568 ดังนั้นเพื่อป้องกันการเกิดผลกระทบต่อการจ้างแรงงานไทย ที่จะเกิดขึ้นกับผู้ประกอบการ แรงงานข้ามชาติ และเศรษฐกิจของไทยโดยรวม รวมทั้งเพื่อให้เกิดแนวทางการวางแผนการบริหารจัดการแรงงานข้ามชาติในระยะยาว ทางเครือข่ายองค์กรด้านประชากรข้ามชาติจึงจัดให้มีการสัมมนาระดมความคิดเห็นในเรื่อง “แนวทางการบริหารจัดการแรงงานข้ามชาติหลัง 13 กุมภาพันธ์ 2568 และการปฏิรูป

บทวิเคราะห์การแก้ไขกฎหมายการประมงของประเทศไทย

จากการวิเคราะห์ของ EJF มีมาตราทีน่ากังวลจากร่างกฎหมายอย่างน้อย 17 มาตราจากร่างทัง 8 ฉบับ ทีอาจ ส่งผลต่อความโปร่งใส ยังยืน และการคุ ้มครองแรงงานหลายประการทีเคยมีในช่วง 8 ปีทีผ่านมา EJF ทําการ ประเมินในเชิงลึกสําหรับประเด็นแก้ไขทีสร้างความกังวลและเร่งด่วนทีสุด จํานวน 7 ประเด็นด้านล่างนี พร้อม ทังเปรียบเทียบมาตราทีน่ากังวลทังหมด 17 มาตราสามารถอ่านได้ในหน้า 20-28 จากการวิเคราะห์ร่างทัง 8 ฉบับ จะเห็นได้ว่าร่างของพรรคก้าวไกลมีข้อเสนอแก้ไขที “สุดโต่ง” ทีสุด จากทัง 17 มาตราที EJF รวมถึงกลุ ่มประมงพืนบ้าน และองค์กรแรงงานพิจารณาเห็นว่ามีปัญหาและน่ากังวล ร่างของ พรรคก้าวไกลมีการแก้ไขคิดเป็นสัดส่วนถ

แถลงท่าทีและข้อเสนอแนะของเครือข่ายองค์กรด้านประชากรข้ามชาติต่อรัฐบาลไทยก่อนการเลือกตั้งคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ

เครือข่ายองค์กรด้านประชากรข้ามชาติ และภาคีภาคประชาสังคมด้านสิทธิมนุษยชน มีข้อเสนอและข้อเรียกร้องต่อรัฐบาลไทยในการพัฒนามาตรการในการปกป้องและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนโดยเฉพาะในกลุ่มแรงงานข้ามชาติและผู้ลี้ภัยดังนี้